Blooming Bouquet

  • Home
  • Download
  • Premium Version
  • Custom Theme
  • Contact
    • download templates
    • Link 2
    • Link 3
Home Archive for 2016
(1) มะลิลามีชื่อทั่วไป (ชื่อสามัญ) ในภาษาอังกฤษคือ Arabian jasmine หรือ “ดอกมะลิอาหรับ”

(2) มะลิลามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Jasminum Sambac(L.) Aiton



(3) มะลิลามีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชีย โซนประเทศอินเดียและคาบสมุทรอาระเบีย

(4) มะลิลาเป็นดอกประจำชาติของประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Sampaguita



(5) มะลิลาเป็นหนึ่งในสามของดอกไม้ประจำชาติของอินโดนีเซียโดยมีชื่อว่า Melati Putih

(6) สมัยก่อนคนไทยนิยมนำดอกมะลิลามาทำเป็นน้ำลอยมะลิเพื่อดื่มและใช้ทำขนม



(7) คนไทยนิยมนำดอกตูมของมะลิลามาร้อยเป็นพวงมาลัยเพื่อนำไปถวายพระและนำไปกราบแม่ในวันแม่



(8) ดอกมะลิลาจะเป็นดอกตูมอยู่หลายวัน แต่จะบานวันเดียวแล้วก็โรย โดยจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ตลอดวัน

(9) มะลิลาเป็นดอกไม้สีขาวแต่พอโรยแล้วกลีบดอกจะกลายเป็นสีม่วง




(10) มะลิลามีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามภาคต่างๆ ในประเทศไทย

-:-  ภาคกลางเรียกมะลิซ้อน  -:-

-:- ภาคเหนือเรียกมะลิป้อม  -:-

-:- เชียงใหม่เรียกมะลิขี้ไก่ (ละว้า-เชียงใหม่เรียกเตียมูน)  -:-

-:- แม่ฮ่องสอนเรียกมะลิหลวง (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอนเรียกข้าวแตก)  -:-




(11) ด้วยกลิ่นที่หอมหวานมะลิลาจึงถูกนำไปใช้ทำน้ำหอมและทำชาอีกด้วย

(12) มะลิลาออกดอกตลอดปี และจะออกดอกมากในฤดูฝน แต่ออกดอกน้อยในฤดูหนาว

(13) มะลิลาเป็นมะลิที่นิยมปลูกเพื่อการค้ามากที่สุดในปัจจุบัน





ดอกอะไรเอ่ยบานแล้วคว่ำหน้าลง
ดอกไม้ของกวักนางพญาใหญ่นี่เองค่ะ


ต้นดอกไม้สีขาวอีกต้นหนึ่งที่อยู่ในบ้านเรา ถามแม่ก็ไม่ได้คำตอบว่าเป็นต้นอะไร รู้แต่ว่ามีคนให้มาอีกที และมีความหมายเกี่ยวกับโชคลาภเงินทองและเมตตามหานิยม เราลองค้นข้อมูลอยู่นานกว่าจะสรุปออกมาได้ว่าน่าจะเป็นกวักนางพญาใหญ่ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลว่าน โดยกวักที่มีลักษณะคล้ายกันมากๆ จะมีอยู่ 3 ชนิด คือ กวักพุทธเจ้าหลวง กวักนางพญาใหญ่ และกวักนางพญามหาเศรษฐี


กวักทั้ง 3 ชนิดนี้ถ้าดูผิวเผินก็แทบจะแยกไม่ออกเลยค่ะ วิธีที่พอจะใช้สังเกตเพื่อแยกความแตกต่างของกวักทั้ง 3 ชนิดนี้ เราขออ้างอิงจากหนังสือชื่อสารพัดว่าน ตำราว่าน 108 และสมุนไพร โดยคุณแสวง เพชรศิริ ซึ่งจะตัดมาเฉพาะลักษณะเด่นๆ ของกวักแต่ละชนิดเพื่อให้เป็นจุดสังเกตนะคะ
กวักพุทธเจ้าหลวง
กวักนางพญาใหญ่
กวักนางพญามหาเศรษฐี
ลำต้นเป็นกาบ ก้านยาวพ้นดิน ใบคล้ายใบจำปี แต่ใหญ่และยาวกว่า พื้นใบมีสีเขียวเข้มและอมเหลือง ย่นเป็นจุดๆ คล้ายใบชะพลู ริมขอบของใบย่นบิด ปลายใบคุ้มเหมือนปากนก หัวเหมือนหอมหัวใหญ่ เวลามีดอกก้านดอกของช่อดอกจะสูงยาวพ้นลำต้นมาก
หัวเหมือนหัวหอมใหญ่ สีขาว ก้านใบแตกขึ้นมาตรงกลางหัว มีความยาวถึง 17-19 นิ้ว ใบใหญ่ยาว สีเขียวจัดมาก หน้าใบมันเงาสวยงามมาก ใบที่งามเต็มที่กว้างประมาณ 5-6 นิ้ว ก้านเขียวจัด ดูเป็นมัน ปลายแหลม จนก้านสูงพ้นเรือนต้นแล้ว ดอกจะเริ่มแตกบานทีละ 2-3 ดอก
ข้อสังเกตว่าจะเป็นนางพญาใหญ่หรือไม่ ให้เอาปลายใบและโคนก้านมาหักทบกัน ความยาวของก้านใบและใบจะมีส่วนเท่ากันพอดี
ลักษณะทั่วไปของว่านนี้ ไม่ว่าจะเป็นต้น หัว ดอก แทบทุกอย่างเหมือนนางพญาใหญ่ ต้องพิถีพิถันสังเกตกันหน่อย คือว่านนางพญามหาเศรษฐีนี้ มีขนาดต้นและช่วงเล็กกว่า สั้นกว่านางพญาใหญ่ นอกนั้นเหมือนกันหมด


ถึงจะได้ความรู้จากตำราแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ดูยากอยู่ดีค่ะ บอกตามตรงว่าเราก็ไม่ได้มั่นใจ 100% ว่าต้นที่เรามีคือกวักนางพญาใหญ่ อาศัยจับข้อสังเกตว่ามีส่วนที่ไม่ตรงกับลักษณะของกวักอีก 2 ชนิด รวมทั้งเก็บข้อมูลจากกระทู้ที่ผู้มีความรู้และประสบการณ์เคยเห็นต้นจริงๆ ของกวักทั้ง 3 ชนิดมาแบ่งปันความรู้ให้ ท่านใดสนใจตามไปอ่านดูได้จากลิงค์ข้างล่างนี้เลยนะคะ มีอธิบายพร้อมรูปตัวอย่างไว้ให้ดูดีทีเดียวค่ะ

>> ว่านมหาโชค
>> เอารูปกวักนางพญาใหญ่มาฝากครับป๋ม
>> ดอกไม้ ขาวและหอม ค่ะ
>> ว่านอะไร
>> ว่านกวักพุทธเจ้าหลวง

กวักนางพญาใหญ่เป็นพืชล้มลุกที่มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน มีใบสีเขียวเข้มเป็นเงา ดอกเป็นสีขาว เวลาบานจะคว่ำหน้าลงค่ะ ที่บ้านเราปลูกในกระถาง มีอยู่กระถางเดียว ตอนที่ออกดอกในช่วงหน้าหนาวประมาณเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ก็จะออกดอกถี่ๆ ตามกันมาหลายๆ ช่อเลย แต่พอหน้าร้อนก็ไม่เห็นมีดอกแล้วค่ะ
ความเชื่อเกี่ยวกับกวักนางพญาใหญ่นั้น มีบันทึกที่สืบต่อกันมาว่าถ้าปลูกไว้ที่หน้าบ้านจะช่วยให้มีโชคลาภ มีเงินทองไหลมาเทมา ถ้าค้าขายก็จะขายดิบขายดี รวมทั้งยังช่วยให้ผู้ปลูกมีอำนาจ เกียรติยศ มีสง่าราศี ตามชื่อนางพญาใหญ่ด้วยนะคะ

อนุกรมวิธานของกวักนางพญาใหญ่
ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name):
Eucharis X grandifloraPlanch & Linden
ชื่อพ้อง (Synonym):
Microdontocharis Baill.
ชื่อสามัญ (Common name):
กวักนางพญาใหญ่ (Amazon Lily)
วงศ์ (Family):
Amaryllidaceae
ชื่ออื่นๆ (Other name):
ว่านนางพญาใหญ่ ว่านกวักนกกระยาง
ถิ่นกำเนิด (Origin):
ทวีปอเมริกาใต้แถบประเทศโคลอมเบีย เปรู และเอกวาดอร์

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกวักนางพญาใหญ่
กวักนางพญาใหญ่เป็นพืชล้มลุก มีต้นเป็นพุ่มสูงประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร มีส่วนของลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดินมีสีขาวเหมือนหอมหัวใหญ่ ดอกมีสีขาว ใบสีเขียวจัดเป็นมันเงา 
ดอกดอกของกวักนางพญาใหญ่มีสีขาว เป็นรูปทรงกรวยมี 6 กลีบ ออกดอกเป็นช่อๆ ละ 8-9 ดอก เกสรดอกยาวและมีตุ่มที่ปลายเกสรเป็นสีเหลือง ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ก้านดอกจะสูงพ้นขึ้นมาจากต้นและใบทำให้ดูโดดเด่น และเวลาดอกบานจะคว่ำหน้าลง โดยในแต่ละช่อจะค่อยๆ ทยอยบานทีละ 2-3 ดอก


ใบใบของกวักนางพญาใหญ่เป็นใบเดี่ยวรูปทรงรีมีสีเขียวเข้มเป็นมันวาว แผ่นใบจะบิดเล็กน้อย ปลายใบแหลม ก้านใบแตกขึ้นมาจากตรงกลางหัว ลักษณะที่สำคัญของใบกวักนางพญาใหญ่คือเมื่อนำส่วนปลายใบและโคนก้านใบมาพับทบกัน จะแบ่งครึ่งส่วนของใบและก้านได้พอดี


ลำต้นกวักนางพญาใหญ่มีลำต้นลักษณะเป็นกาบก้านใบ มีหัวอยู่ใต้ดินเป็นสีขาวเหมือนหัวหอมใหญ่

การขยายพันธุ์กวักนางพญาใหญ่ ทำได้โดยการแยกหน่อจากต้นเดิม

การปลูกและการดูแลรักษา
การปลูกกวักนางพญาใหญ่จะต้องคำนึงถึงการระบายน้ำและอากาศเป็นหลัก เพราะถ้าน้ำมากเกินไปหรือดินระบายน้ำได้ไม่ดี จะทำให้หัวเน่าได้ การเตรียมกระถางปลูกให้รองก้นกระถางด้วยอิฐมอญทุบแบบหยาบๆ แล้วจึงใส่ดินปลูก จากนั้นนำหัวที่เตรียมไว้ลงปลูกโดยจะต้องให้หัวโผล่พ้นดินขึ้นมาครึ่งหนึ่ง และอย่ากดดินให้แน่นจนเกินไป เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงรดน้ำตามพอให้เปียกจนทั่วแต่อย่าให้แฉะ
การดูแลรักษา
แสง กวักนางพญาใหญ่ชอบแดดปานกลาง ซึ่งอาจจะปลูกไว้ในที่แดดรำไรหรือโดนแสงแดดเพียงครึ่งวัน
น้ำ การรดน้ำให้รดแต่พอดี ไม่ให้เปียกแฉะมากเกินไปเพราะจะทำให้หัวเน่าได้
ดิน ควรจะเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดี โดยอาจจะใช้ดินร่วนหรือดินร่วนปนทรายก็ได้






อีกหนึ่งดอกไม้สายพันธุ์เดียวกับลิลลี่ หรือถ้าเป็นเมืองไทยของเราก็จะคุ้นเคยกันดีกับจำพวกว่านสี่ทิศ ว่านรางเงินเป็นไม้ประดับประเภทหัวที่มีดอกขนาดใหญ่ สีสันสดใส เลยเป็นอีกดอกไม้หนึ่งที่เราชอบเอาไว้ฝึกถ่ายรูปเพราะความที่มีดอกใหญ่และมีเกสรยื่นยาวโค้งงอออกมาจากดอก


เราเคยเห็นและถ่ายรูปดอกของว่านรางเงินนี้มาหลายปีแล้ว แต่เพิ่งจะมาหาข้อมูลจริงๆ จังๆ ว่าเป็นดอกอะไรก็เมื่อไม่นานมานี้นี่เอง แรกๆ ก็สับสนพอสมควร เพราะค้นๆ ไปก็เจอดอกไม้ที่คล้ายๆ กันกับรูปที่เรามี แต่จริงๆ แล้วเป็นคนละสายพันธุ์ ดอกไม้ที่อยู่ในวงศ์เดียวกับว่านรางเงินนี้มีทั้งสายพันธุ์ตามธรรมชาติกว่า 90 สปีชีส์ และมีการผสมข้ามสายพันธุ์อีกกว่า 600 สายพันธุ์ เพราะความที่มีดอกขนาดใหญ่และสวยงาม ยิ่งผสมข้ามสายพันธุ์ก็ยิ่งจะได้สีของดอกไม้ใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ


ว่านรางเงินนี้จะออกดอกได้ตลอดปี ปีละ 2 – 3 ครั้ง ที่บ้านเราจะปลูกไว้ในกระถาง ใบสีเขียวเข้มเป็นพุ่มสวยงาม นอกจากความสวยงามของดอกแล้ว ว่านรางเงินยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วยนะคะ โดยว่ากันว่าในตำรายาโบราณได้มีการบันทึกเอาไว้ว่าใช้รักษาฝีได้เกือบทุกชนิด และยังช่วยแก้ปวดแก้ช้ำได้อีกด้วยค่ะ

สรรพคุณทางยาของว่านรางเงิน
ในตำรายาโบราณมีการบันทึกไว้ว่าหัวว่านหรือลำต้นที่อยู่ใต้ดินของว่านรางเงินสามารถใช้รักษาฝี แผล และใช้แก้ปวดได้ โดยจะนำมาโขลกให้ละเอียดแล้วผสมกับเหล้าขาว จากนั้นนำมาพอกหรือทาบริเวณที่เป็นแผลหรือมีอาการปวด นอกจากนี้ยังมีการนำใบมาต้มแล้วใช้ดื่มเพื่อแก้ร้อนในหรือช้ำในได้ค่ะ

ความหมายของว่านรางเงิน
ว่านรางเงินถือเป็นไม้มงคลตามความเชื่อของคนไทย โดยเชื่อกันว่ามีอนุภาพด้าน “เมตตามหานิยม” ก็คือ จะทำให้บ้านหรือร้านค้าที่ปลูกว่านรางเงินเป็นบ้านที่มีสิริมงคล มีโชคลาภและเงินทองไหลมาเทมา นิยมปลูกให้ครบทั้ง 3 ชนิดคือ ว่านรางเงิน ว่านรางทอง และว่านรางนาก จะทำให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ


อนุกรมวิธานของว่านรางเงิน
ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name):
Hippeastrum reticulatum (L'Hér.) Herb.
ชื่อพ้อง (Synonym):
Amaryllis reticulata L'Hér.
ชื่อสามัญ (Common name):
ว่านรางเงิน
วงศ์ (Family):
Amaryllidaceae
ชื่ออื่นๆ (Other name):
Star Lily
ถิ่นกำเนิด (Origin):
ประเทศบราซิล
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ว่านรางเงินเป็นไม้ล้มลุก มีหัวอยู่ใต้ดินลักษณะเหมือนหอมหัวใหญ่ ใบจะมีลักษณะคล้ายใบหอก สีเขี้ยวเข้ม มีเส้นตรงกลางสีขาวพาดยาวตลอดใบ ก้านช่อดอกยาว ดอกตูมมีกลีบหุ้มดอกสีเขียว เมื่อกลีบหุ้มดอกแย้มออกกลีบดอกด้านในจะมีสีขาวและจะเข้มขึ้นเล็กน้อยจนเมื่อดอกบาน พื้นดอกสีขาวมีลายเส้นสีชมพูอมแดง ส่วนเกสรจะมีสีเหลืองอมเทา


ดอก ว่านรางเงินจะมีดอกลักษณะเป็นช่อแบบซี่ของร่มโดยมีก้านดอกยาวชูดอกขึ้นเหนือต้น ก้านดอกจะมีลักษณะกลมและแข็งแรง ดอกของว่านรางเงินจะเป็นพื้นสีขาวมีลายเส้นสีชมพูอมแดงตัดกับเกสรสีเหลืองอมเทา ในหนึ่งดอกจะมีกลีบดอกอยู่ 6 กลีบเป็นกลีบยาวใหญ่ และช่อหนึ่งจะมีดอกประมาณ 4 ดอก รูปดอกเป็นทรงกรวยลักษณะคล้ายระฆังคว่ำ มีสีสันสวยงาม


ใบ ว่านรางเงินมีใบคล้ายใบหอกสีเขียวเข้ม เป็นใบเดี่ยวปลายใบแหลม มีเส้นตรงกลางสีขาวพาดยาวตั้งแต่โคนจนถึงปลายใบ มองเห็นได้ชัดเจน



ลำต้น มีลำต้นใต้ดินลักษณะคล้ายกับหอมหัวใหญ่สีขาวแต่มีกาบหนากว่า

การขยายพันธุ์ว่านรางเงิน
นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อและการแยกหัว ซึ่งว่านรางเงินเป็นไม้หัวที่มีอายุหลายปี

การปลูกและการดูแลรักษา
ว่านรางเงินเป็นพืชที่ดูแลง่าย จะปลูกในกระถางหรือปลูกลงดินก็ได้โดยจะแตกกอเอง การปลูกว่านรางเงินเมื่อนำหัวว่านใส่ลงไปในหลุมที่เตรียมไว้แล้วกลบดินพอมิดหัวว่าน แต่อย่ากดดินให้แน่นเกินไป จากนั้นก็รดน้ำตาม
แสง ว่านรางเงินชอบอยู่ในที่ร่มรำไร มีแดดเพียงครึ่งวัน แต่ก็สามารถปลูกกลางแจ้งได้เหมือนกัน
น้ำ ว่านรางเงินชอบน้ำปานกลาง ให้รดน้ำได้ทุกวัน แต่จะไม่ชอบน้ำขัง หัวของว่านจะเก็บสารอาหารเอาไว้ทำให้ว่านรางเงินสามารถทนแล้งได้
ดิน การปลูกว่านรางเงินให้ใช้ดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี ไม่ทำให้น้ำขังและสามารถระบายอากาศได้ดี



ว่านรางเงินเป็นอีกหนึ่งในไม้ประดับที่เหมาะจะปลูกไว้ที่บ้านนะคะ ทั้งความสวยงามของดอกและใบ รวมถึงความหมายดีๆ ของว่านรางเงินด้วย เราเองก็คิดว่าจะลองไปหาว่านรางทองและว่างรางนากมาปลูกให้ครบทั้ง 3 อย่าง ถ้าได้ครบแล้วจะเอารูปสวยๆ และความรู้เรื่องการปลูกรวมถึงการดูแลรักษามาฝากนะคะ



เราเพิ่งรู้จักดอกผีเสื้อราตรีเมื่อไม่นานมานี้เอง ทั้งๆ ที่มีอยู่ที่บ้านแต่ก็ไม่ได้สนใจ จนวันหนึ่งอยากถ่ายรูปดอกไม้เล่นๆ เลยเดินหาดูรอบๆ บ้านว่าพอจะมีอะไรสวยๆ น่าสนใจบ้าง แล้วก็ได้เจอต้นดอกไม้ที่มีใบแปลกๆ นี้

ผีเสื้อราตรีที่บ้านเรามีใบสีม่วงเข้ม ใบแต่ละใบเป็นรูปสามเหลี่ยม และจะเรียงเป็นแนววงกลม 3 ใบโดยเอาด้านที่เป็นมุมของสามเหลี่ยมชนกัน เวลาที่มองไกลๆ แล้วมีลมพัดก็จะให้ความรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อเกาะอยู่ที่กระถางต้นไม้หลายๆ ตัว


 


ดอกของต้นผีเสื้อราตรีก็น่ารักไม่ใช่เล่นเลย มองผ่านๆ ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก เป็นดอกไม้เล็กๆ สีชมพู-ม่วงอ่อนจนเกือบขาว แต่พอมองผ่านเลนส์ใกล้ๆ ตอนที่กำลังจะถ่ายรูปและหลังจากที่ถ่ายรูปออกมาแล้ว เลยเพิ่งเห็นว่าเป็นดอกที่น่ารักและมีสีสวยใช้ได้เลย เพราะตรงกลางจะเป็นสีเขียวอ่อน ตัดกับสีชมพู-ม่วงแล้วก็ขึ้นกล้องดีจริงๆ




ผีเสื้อราตรีเหมาะที่จะใช้เป็นไม้ประดับตกแต่งโดยอาจจะแขวนไว้รอบๆ บ้านตามแนวรั้วหรือระเบียง ตรงที่มีลมผ่าน ในวันว่างๆ ออกมานั่งรับลมหรือเดินเล่นก็คงจะมองเพลินๆ ได้ไม่น้อยเลย
อ้อ สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปดอกไม้แบบเรา ก็น่าจะชอบต้นผีเสื้อราตรีนี้เหมือนกัน เพราะว่าเป็นต้นดอกไม้ที่มีมุมให้ปรับเปลี่ยนได้เยอะแยะ สวยทั้งดอกและใบ ทำให้สร้างสรรค์รูปถ่ายที่แตกต่างกันได้หลายแบบทีเดียว



อนุกรมวิธานของผีเสื้อราตรี
ชื่อวิทยาศาสตร์
Oxalis triangularis
ชื่อพ้อง
Oxalis regnellii, Oxalis atropurpurea
ชื่อสามัญ (Common name):
ผีเสื้อราตรี (false shamrock (ชื่อนี้ปกติจะหมายถึงต้นที่มีใบสีเขียวด้วย), Purple Shamrock, Love Plant)
วงศ์ (Family):
Oxalidaceae
ถิ่นกำเนิด (Origin):
ประเทศบราซิล

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ผีเสื้อราตรีเป็นพืชล้มลุก มีหัว และมีใบสีเขียวหรือม่วงลักษณะคล้ายตัวผีเสื้อกางปีกที่มักจะหุบในเวลากลางคืน ดอกมีสีชมพู-ม่วงอ่อนเกือบขาว โดยทั่วไปนิยมปลูกเป็นไม้กระถาง ผีเสื้อราตรีชอบน้ำปานกลางและเติบโตได้ดีในที่มีแดดรำไรหรือในที่ร่ม
ดอก ผีเสื้อราตรีออกดอกเป็นดอกเดี่ยว โดยก้านดอกจะออกจากก้านลำต้น มีสีชมพู-ม่วงอ่อนเกือบขาว มีกลีบดอก 5 กลีบ เป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีเกสรตัวผู้ 5-6 ตัว



ใบ ผีเสื้อราตรีมีใบเป็นสีเขียวหรือสีม่วง ใบแต่ละใบเป็นรูปสามเหลี่ยม และจะเรียงเป็นแนววงกลม 3 ใบโดยเอาด้านที่เป็นมุมของสามเหลี่ยมชนกัน ดูเผินๆ คล้ายกับตัวผีเสื้อใบกางปีก ใบจะหุบในเวลากลางคืน



การขยายพันธุ์ผีเสื้อราตรี
ผีเสื้อราตรีขยายพันธุ์ได้ด้วยการแยกหน่อโดยให้แบ่งหัวที่เป็นแง่ง แล้วบิออกมาเป็นปล้อง จากนั้นนำไปปลูกในกระถาง รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่แสงรำไรหรือในที่ร่ม ประมาณ 3 – 5 วันจะมีใบเล็กๆ แทงยอดออกมา

การดูแลรักษา
ถ้าต้องการให้ผีเสื้อราตรีออกดอกเยอะและบานพร้อมๆ กันก็ควรจะเด็ดยอดเมื่อต้นสูงประมาณ 6 นิ้วนะคะ หรืออาจจะเด็ดหลังจากปลูกไปแล้วประมาณ 4 สัปดาห์ จะทำให้ต้นแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มที่ใหญ่ขึ้นค่ะ
แสง ผีเสื้อราตรีเป็นพืชที่ต้องการแสงมากพอสมควร แต่อย่าให้ร้อนจัดมากเกินไป
น้ำ ผีเสื้อราตรีมีความต้องการน้ำปานกลาง และอย่ารดน้ำให้แฉะเกินไปเพราะจะทำให้เหง้าเน่าได้
ดิน เจริญเติบโตได้ในดินร่วนซุย หรืออาจใช้ดินอื่นๆ ที่ระบายน้ำได้ดีและไม่ใช่พวกดินเหนียว
ปุ๋ย ใส่เท่าที่จำเป็นโดยใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพราะจะช่วยทำให้ดินร่วนซุย



ผีเสื้อราตรีจะมีช่วงพักปีละ 2 – 3 ครั้ง โดยที่ใบจะเริ่มเฉาเพราะเป็นไม้หัว ช่วงนี้ให้หยุดการรดน้ำไปเลยนะคะ ถ้ามีใบที่เหี่ยวก็ให้ปล่อยไว้อย่างนั้น อย่าเด็ดทิ้ง รอเวลาประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็ให้ดูแลรดน้ำตามปกติได้เลยค่ะ


สมัครสมาชิก: บทความ ( Atom )

LATEST POSTS

  • ว่านรางเงิน
    อีกหนึ่งดอกไม้สายพันธุ์เดียวกับลิลลี่ หรือถ้าเป็นเมืองไทยของเราก็จะคุ้นเคยกันดีกับจำพวกว่านสี่ทิศ ว่านรางเงินเป็นไม้ประดับประเภทหัวที่มีดอ...
  • ดอกดาหลา
    ดาหลา ดอกไม้ขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตา สีสดใส มีกลีบซ้อนกันหลายชั้น ดาหลาที่บ้านเราเป็นสีแดงสดปลูกอยู่ริมรั้วบริเวณที่มีแสงรำไร จะออกดอกตลอดปี แ...
  • ดอกผีเสื้อราตรี
    เราเพิ่งรู้จักดอกผีเสื้อราตรีเมื่อไม่นานมานี้เอง ทั้งๆ ที่มีอยู่ที่บ้านแต่ก็ไม่ได้สนใจ จนวันหนึ่งอยากถ่ายรูปดอกไม้เล่นๆ เลยเดินหาดูรอบๆ บ้...
  • กวักนางพญาใหญ่
    ดอกอะไรเอ่ยบานแล้วคว่ำหน้าลง ดอกไม้ของกวักนางพญาใหญ่นี่เองค่ะ ต้นดอกไม้สีขาวอีกต้นหนึ่งที่อยู่ในบ้านเรา ถามแม่ก็ไม่ได้คำตอบว่าเป็น...
  • 13 ข้อ รู้หรือไม่กับมะลิลา
    (1) มะลิลามีชื่อทั่วไป (ชื่อสามัญ) ในภาษาอังกฤษคือ Arabian jasmine หรือ “ดอกมะลิอาหรับ” (2) มะลิลามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Jasminum Sambac (...

Categories

  • กวักนางพญาใหญ่
  • ดอกดาหลา
  • ดอกผีเสื้อราตรี
  • ดอกไม้
  • ดอกไม้วันแม่
  • ดอกไม้สีขาว
  • ดอกไม้สีชมพู
  • ดอกไม้สีชมพูม่วง
  • ดอกไม้สีแดง
  • มะลิลา
  • ว่าน
  • ว่านรางเงิน
  • Amazon Lily
  • Arabian Jasmine
  • Etlingera elatior
  • Eucharis X grandiflora Planch & Linden
  • Hippeastrum reticulatum
  • Oxalis triangularis
  • Purple Shamrock
  • Star Lily
  • Torch Ginger

Blooming Bouquet

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Labels

  • กวักนางพญาใหญ่
  • ดอกดาหลา
  • ดอกผีเสื้อราตรี
  • ดอกไม้
  • ดอกไม้วันแม่
  • ดอกไม้สีขาว
  • ดอกไม้สีชมพู
  • ดอกไม้สีชมพูม่วง
  • ดอกไม้สีแดง
  • มะลิลา
  • ว่าน
  • ว่านรางเงิน
  • Amazon Lily
  • Arabian Jasmine
  • Etlingera elatior
  • Eucharis X grandiflora Planch & Linden
  • Hippeastrum reticulatum
  • Oxalis triangularis
  • Purple Shamrock
  • Star Lily
  • Torch Ginger

Blog Archive

  • ▼  2016 (4)
    • ▼  กรกฎาคม (1)
      • 13 ข้อ รู้หรือไม่กับมะลิลา
    • ►  พฤษภาคม (1)
      • กวักนางพญาใหญ่
    • ►  มกราคม (2)
      • ว่านรางเงิน
      • ดอกผีเสื้อราตรี
  • ►  2015 (1)
    • ►  ธันวาคม (1)

Translate

Latest Posts

  • ว่านรางเงิน
    อีกหนึ่งดอกไม้สายพันธุ์เดียวกับลิลลี่ หรือถ้าเป็นเมืองไทยของเราก็จะคุ้นเคยกันดีกับจำพวกว่านสี่ทิศ ว่านรางเงินเป็นไม้ประดับประเภทหัวที่มีดอ...
  • ดอกดาหลา
    ดาหลา ดอกไม้ขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตา สีสดใส มีกลีบซ้อนกันหลายชั้น ดาหลาที่บ้านเราเป็นสีแดงสดปลูกอยู่ริมรั้วบริเวณที่มีแสงรำไร จะออกดอกตลอดปี แ...
  • ดอกผีเสื้อราตรี
    เราเพิ่งรู้จักดอกผีเสื้อราตรีเมื่อไม่นานมานี้เอง ทั้งๆ ที่มีอยู่ที่บ้านแต่ก็ไม่ได้สนใจ จนวันหนึ่งอยากถ่ายรูปดอกไม้เล่นๆ เลยเดินหาดูรอบๆ บ้...
  • กวักนางพญาใหญ่
    ดอกอะไรเอ่ยบานแล้วคว่ำหน้าลง ดอกไม้ของกวักนางพญาใหญ่นี่เองค่ะ ต้นดอกไม้สีขาวอีกต้นหนึ่งที่อยู่ในบ้านเรา ถามแม่ก็ไม่ได้คำตอบว่าเป็น...
  • 13 ข้อ รู้หรือไม่กับมะลิลา
    (1) มะลิลามีชื่อทั่วไป (ชื่อสามัญ) ในภาษาอังกฤษคือ Arabian jasmine หรือ “ดอกมะลิอาหรับ” (2) มะลิลามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Jasminum Sambac (...

Flickr

About

Copyright 2014 Blooming Bouquet.
Designed by OddThemes